ประโยชน์ของกระเทียม

กระเทียม

ยาอายุวัฒนะ

ต้านมะเร็ง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Allium sativum Linn.

วงศ์ : Alliaceae

                 เชื่อแน่ว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกระเทียม แต่มีใครรู้บ้างว่าหน้าตาต้นกระเทียมเป็นอย่างไร ต้นกระเทียมจะมีลักษณะคล้ายๆ กับต้นหญ้าแยกกันแทบไม่ออก หากไม่เห็นดอกสีขาวที่ออกเป็นช่อเล็กๆ รวมกันเป็นกระจุก มองผิวเผินก็เหมือนต้นหญ้าดีๆ นั่นเอง หรือไม่ก็ต้องเด็ดใบมาดมถึงจะรู้ได้เพราะใบกระเทียมกับหัวกระเทียมจะมีกลิ่นฉุนคล้ายๆกัน แต่ต้นกระเทียมจะมีกลิ่นฉุนน้อยกว่า แต่ก็นั่นล่ะหน้าตาต้นกระเทียมเป็นอย่างไรคงไม่สำคัญเท่าไรนัก เพราะงานนี้พระเอกคือหัวกระเทียม กระเทียมถูกใช้เป็นสมุนไพรมานานมากแล้ว ใช้เป็นทั้งยาภายนอกและภายใน มีสรรพคุณครอบจักรวาล เด่นในเรื่องเกี่ยวกับเลือดเพราะกระเทียมมีสารที่ทำให้เลือดลื่น จึงช่วยในการกระจายเลือดและขับพิษออกจากเลือดได้ดี และไม่ว่าจะนำไปใช้เข้าเป็นตัวยาเพื่อรักษาโรคใดก็ ตาม จะใช้เนื้อกระเทียมเป็นสำคัญ

  • ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทำมาจากกระเทียมหลากหลายชนิด แต่ละชนิดต่างก็มีราคาที่แพง ซึ่งในส่วนนี้คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพิ่มจากเดิม เพราะกระเทียมสดกับกระเทียมผงบรรจุแคปซูล

มีคุณสมบัติแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เนื่องจากกระเทียมจะเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นหากสับหรือบดทิ้งไว้สัก ๑๐ -๑๕ นาทีก่อนใช้เพราะเมื่อเซลล์ของกระเทียมแตกตัว สารแอลไลซินจะถูกย่อยสลายโดย

เอนไซม์อัลลิเนส กลายเป็นสารอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น สารอัลลิลินอัลลิซิน ไทโรซิเนส เป็นต้น ซึ่งสารแต่ละชนิดต่างก็มีดี และมีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกันไปทั้งการต่อต้านอนุมูลอิสระบำรุงเลือด กระจายเลือด ขับลม บำรุงหัวใจ และรักษามะเร็ง


วิธีเข้าตัวยา

        ๑. ขับลม แก้จุกเสียด : กระเทียมมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบอยู่มาก จึงทำให้มีกลิ่นฉุนเป็นเอกลักษณ์และมีรสเผ็ดร้อน วิธีการง่ายๆใช้กระเทียมสด ๕ - ๑๐ กลีบ ซอยบางๆ กินหลังอาหารทุกมื้อ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบกินกระเทียมสดๆ ใช้กระเทียม ๕ กลีบบดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้ง ๑ ช้อนแกง หมักทิ้งไว้ประมาณ ๕ นาที ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาแต่น้ำ กินหลังอาหารทุกมื้อ จะช่วยลดอาการแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อได้อย่างชะงัด ถ้าชิ้นกลิ่นเมื่อใดก็ให้กินเนื้อกระเทียมไปพร้อมๆ กันด้วย

        ๒. ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ : กระเทียมปอกเปลือกประมาณ ๕๐๐ กรัม บดให้แหลกหมักกับน้ำผึ้ง ๕๐๐ กรัม ๕ - ๑๐ วัน ใช้ครั้งละ ๑ ช้อนชา กินหลังอาหาร ๓ มื้อ เวลากินให้กินพร้อมเนื้อ 

กระเทียมเข้าไปด้วย เพราะสารบางชนิดจะไม่ละลายออกมาในน้ำผึ้ง สำหรับสูตรนี้ใช้เป็นยาแก้ไอได้ด้วย โดยจิบ ๑ ช้อนชาทุกครั้งที่มีอาการไอ

         ๓. แก้โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา สารอัลลิซิน ในกระเทียม ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่างๆ ได้ใช้กระเทียม ๑ กลีบบุบพอแตก ขัดถูบริเวณที่เกิดโรคผิวหนัง ทิ้งไว้ประมาณ ๓ - ๕ นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 

 ยาบำรุงหัวใจและต้านมะเร็งชั้นดี

          โรคที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นอันดับต้นๆ คือโรคมะเร็งและโรคหัวใจเพราะเป็นโรคที่ยากแก่การรักษา การที่คุณกินกระเทียมบ่อยๆ จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งได้ ในส่วนของโรคหัวใจ กระเทียมช่วยลดการเกิดโรคหัวใจที่มีสาเหตุมาจากการอุดตันของเส้นเลือด ทั้งจากเกล็ดเลือดที่จับตัวเป็นก้อน และช่วยสลายคอเลสเตอรอลที่เกาะตามผนังหลอดเลือด เพราะกระเทียมมีสารอะโจอื่น (ajoene) ที่ช่วยสลายไฟบรินซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เลือดแข็งตัวเวลาเกิดแผล แม้สารตัวนี้จะทำหน้าที่ให้เลือดหยุดไหลแต่ก็ทำให้เลือดจับตัวเป็นก้อนจนเกิดการอุดตัน ส่วนสารอัลลิซินจะช่วยสลายคอเลสเตอรอลที่ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาจนเกิดการอุดตันส่วนในเรื่องของมะเร็ง สารต่างๆ ที่อยู่ในกระเทียมจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถต่อสู้กับเซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น ช่วยให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของก้อนเนื้อ ซึ่งสารที่ช่วยในกระบวนการเหล่านี้จะละลายกับน้ำได้น้อยมาก การนำกระเทียมไปต้มทำเป็นยาหม้อเพื่อดื่มน้ำจึงไม่ค่อยได้ผล หากจะใช้เพื่อการบำรุงเลือดและรักษามะเร็ง การกินกระเทียมให้ได้สดๆ หรือกินกระเทียมผง จะได้ผลดีมากกว่านอกจากนั้นสารอัลลิซินและสารสคอร์ดินิน ที่อยู่ในกระเทียมยังออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่นคอตีบ ปอดบวม วัณโรค นอกจากนั้นกระเทียมยังช่วยบรรเทาอาการเบาหวานได้อีกด้วย เพราะสารอัลลิซินจะกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารอินซูลิน ทำให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลได้มากขึ้น

 

Reference: 

1.หนังสือสุดยอด108สมุนไพรไทย

2. www.sanook.com

 

 

 

 

 

รายการล่าสุดที่คุณดู
Visitors: 5,733,930