น้ำผึ้งป่าเดือน5 (เกสรดอกไม้ป่า) 1,000กรัม (5th month wild honey special selection)

รหัสสินค้า : 0401700001

จำนวนสินค้า ราคา
1 ถึง 5
244.00 ฿

550.00 ฿
 (-56%)
6 ถึง 12
225.00 ฿

550.00 ฿
 (-59%)
13 ขึ้นไป
205.00 ฿

550.00 ฿
 (-63%)
จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 244.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

น้ำผึ้งป่าเดือน5

น้ำผึ้งป่าเดือน5เกสร 108 เป็นน้ำผึ้งที่เก็บในเดือนที่มีความชื้นน้อย ซึ่งมีกลิ่นหอมหวาน เป็นน้ำผึ้งที่ออกมาจากเกสรดอกไม้ป่านานาชนิดในธรรมชาติ ซึ่งหนึ่งปีจะมีน้ำผึ้งเดือน 5 แค่ ครั้งเดียว

ด้วยการดูแลน้ำผึ้งด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง

    โดยให้อยู่ในมาตรฐาน โดยธรรมชาติน้ำผึ้งที่ได้มาจากรังผึ้ง จะมีความชื้น(Moisture Content) อยู่ในช่วงระหว่าง 18% - 25% และถ้าน้ำผึ้งมีความชื้นเกิน 20 % ยีสและเชื้อรา ในน้ำผึ้งจะทำให้เกิดกระบวนการหมักได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้เกิดการควบคุมที่ได้คุณภาพของน้ำผึ้งและให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดจึงใช้กระบวนการที่ทันสมัยทางเทคโนโลยีและทางวิทยาศาตร์

จึงได้ใช้กระบวนการ Evaporated คือการระเหยน้ำส่วนน้อยภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำและความดันที่สูงทำให้น้ำระเหยออกไปและควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 50 – 55 องศาเซลเซียส ทำให้น้ำส่วนน้อยในน้ำผึ้งระเหยไปได้และยังคงสารชีวภาพและวิธีนี้จะช่วยรักษาคุณภาพของน้ำผึ้งไว้ได้ระยะเวลานานและปราศจากเชื้อรา


สรรพคุณ: น้ำผึ้งเป็นยาอายุวํฒนะ ใช้ในการประกอบอาหาร ใช้ในอุตสาหกรรมเสริมความงามมนุษย์ได้นำน้ำผึ้งมาใช้ ประโยชน์อีกมากมายมาจนปัจจุบันนี้ มากไปกว่านี้


1.น้ำผึ้งแก้อาการระคายคอ หรือแม้กระทั่งการระคายคอในช่วงเวลากลางคืน สามารถบริโภคน้ำผึ้งแท้ 2 ช้อนชา เพื่อให้ความหนาแน่นของน้ำผึ้งเคลือบคอ ช่วยลดอาการระคายคอจากการไอ

2.น้ำผึ้งเต็มไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์และปกป้องสมองของคุณ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าน้ำผึ้งที่กินทุกวันมีประโยชน์ในการรักษาความทรงจำของสตรีวัยหมดประจำเดือน น้ำผึ้งสามารถช่วยในเรื่องความจำได้อย่างไร มันช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ของร่างกายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสุขภาพสมอง และการทำงานของระบบประสาท

3.น้ำผึ้งช่วยรักษารังแคได้ชั่วคราว สามารถผสมน้ำผึ้งกับน้ำอุ่นเล็กน้อยแล้วทางบางๆ บริเวณหนังศีรษะทิ้งไว้ 1-2ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด คุณสมบัติของน้ำผึ้งสามารถ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราตามธรรมชาติ และจะช่วยบรรเทาหนังศีรษะและรักษาบริเวณที่ติดเชื้อหรือได้รับบาดเจ็บได้ดี

4.น้ำผึ้งสามารถต้านเชื้อแบตทีเรียได้ดี เพราะน้ำตาลในน้ำผึ้งมีแบตทีเรียตัวดีทำให้ผิวเนียนเรียบ และนี่เป็นอีกผลที่เมื่อพันปีที่แล้ว น้ำผึ้งจึงเป็นยาอายุวัฒนะ และเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทางด้านความงาม รักษาสมานแผล และทำให้รอยแผลเล็ก ๆ เรียบเนียนขึ้น

5.น้ำตาลเป็นตัวทำให้เกิดการหลั่งอินซูลิน และเซโรโทนิน สารแห่งความสุข ซึ่งจะช่วยยกระดับอารมณ์ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สารเซโรโทนินถูกแปลงโดยร่างกายเป็นเมลาโทนินซึ่งควบคุมการนอนหลับลึกให้เป็นปกติ และในน้ำผึ้งก็มีส่วนนึงที่เรียกว่า ทริปโตเฟนกรดอะมิโนที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน รู้แบบนี้แล้วควรทานน้ำผึ้งผสมชาสมุนไพรอุ่น ๆ ก่อนนอน

6.น้ำผึ้งสามารถช่วยให้คุณนอนหลับและปลุกคุณขึ้นมาตอนเช้าได้อย่างสดชื่น เพราะน้ำผึ้งมีคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากน้ำผึ้งเป็น น้ำตาลที่ยังไม่ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ จึงให้พลังงานแก่เราในระยะสั้นๆ สามารถผสมน้ำผึ้งในเครื่องดื่มระหว่างวัน หรือทานกับชาผลไม้ แค่นี้กลางคืนก็หลับได้อย่างสบายและตื่นมาสดชื่น

7.นอกจากน้ำผึ้งสามารถช่วยบรรเทาอาการระคารเคืองภายนอกแล้ว ยังสามารถบรรเทาอาการปวดภายในกระเพาะอาหาร ระคายเคืองทางเดินอาหาร ในขณะที่น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย และก็ยังมีโปรไบโอติก เป็นเชื้อแบคทีเรียที่ร่างกายต้องการ

8.น้ำผึ้งเป็นของธรรมชาติที่ดีสำหรับผิว คุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน บรรเทาผิวและมี สารต้านอนุมูลอิสระปกป้องเซลล์จากความเสียหายอนุมูลอิสระซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย น้ำผึ้งยังช่วยลดอาการบวมและอาการบวมได้อีกด้วย นำน้ำผึ้งไปผสมกับน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวและน้ำตาลธรรมดา แล้วนำไปขัดผิวเพื่อผิวที่อย่างอ่อนโยนหรือผสมกับเกลือทะเลสำหรับขัดผิวกาย

9.น้ำผึ้งอุดมไปด้วยแบคทีเรียที่เป็นมิตร เช่นแลคโตบาซิลลัส และบิฟิโดแบคทีเรียซึ่งไม่เพียง แต่ช่วยในการย่อยอาหาร แต่ยังช่วยให้ร่างกายของคุณมีระบบนิเวศ สุขภาพแข็งแรง แค่คุณผสมน้ำผึ้งกับโยเกิร์ตธรรมชาติ แค่นี้คุณก็จะได้แบคทีเรียตัวดี ช่วยระบบย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร และระบบขับถ่าย


วิธีรับประทาน

1.ทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง

การทานน้ำผึ้ง ควรทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง จะช่วยให้การดูดซึมสารอาหารในกระเพาะอาหารได้ดีขึ้น หรือหากทานก่อนนอนก็จะช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น

ทานโดยการผสมน้ำผึ้งในน้ำอุ่นเล็กน้อย จากนั้นจิบเรื่อยๆ จนหมดแก้ว

2.แทนน้ำตาล

ทานน้ำผึ้งโดยนำมาใช้เป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ด้วยการใส่น้ำผึ้งลงไปในกาแฟ น้ำผลไม้ ใส่ในอาหารบางชนิดหรือใช้ทาขนมปังแทนแยม ไม่ทำให้อ้วนหรือเสี่ยงเบาหวาน


วิธีเก็บรักษา เก็บในอุณหภุมิห้อง


ผ่านการตรวจประเมินสถานที่ผลิตอาหาร

Visitors: 5,733,297